วันจันทร์ที่ 21 พฤษภาคม พ.ศ. 2555
:: เกาะมุกด์และถ้ำมรกต :: |
ลักษณะส่วนใหญ่ของเกาะมุกด์เป็นโขดผาสูงตระหง่านหน้าผาเหล่านี้ เป็นที่อาศัยของ นกนางแอ่น และได้ซุกซ่อนถ้ำมรกตหรือถ้ำน้ำ ซึ่งมี ความงดงามตระการตา ไว้อย่างมิดชิดถ้ำมรกตนี้ จะเข้าออก ได้เฉพาะช่วงน้ำลงเท่านั้น โดยปากถ้ำเป็นโพรงเล็ก ๆ สูงพ้นระดับน้ำพอเรือลอดได้ เมื่อลอดเข้าไป แล้วจะเป็น เส้นทางคดโค้งระยะทางประมาณ 80 เมตร ก่อนจะออกมาเจอปากถ้ำอีกด้านหนึ่งซึ่งเป็น หาดทรายขาวสะอาด ล้อมรอยด้วยหน้าผาสูงชันเกาะเชือก อยู่ระหว่างเกาะมุกด์ และเกาะไหง ใต้ทะเล ที่อุดมสมบูรณ์และสวยงามที่สุดแห่งหนึ่ง เกาะกระดานชายหาด มีทรายขาวละเอียด เหมือนแป้ง และน้ำใส จนมองเห็น แนวปะการังซึ่งทอดยาวจากชายหาดด้านเหนือถึงชายฝั่ง และมีฝูงปลาหลากสี แหวกว่ายอย่างสวยงาม สำหรับผู้นิยม การโต้คลื่นด้านหลังเกาะมีอ่าวเล็ก ๆ ที่มีคลื่นลูกโต ๆ สาดม้วน เข้าหาหาดเป็นระลอก ๆ เกาะกระดานอยู่ทางด้านตะวันตกของเกาะมุกด์และเกาะลิบง ใช้เวลาเดิน ทางจากปากเมงเกือบ 2 ชั่วโมง ฤดูท่องเที่ยวอยู่ในช่วงเดือนตุลาคมถึงพฤษภาคม ที่มา |
:: เขื่อนอุบลรัตน์ ::

ที่มา http://www.hotelsthailand.com/northeast/khonkhan/places.cfm
:: พระราชนิเวศน์มฤคทายวัน :: |
ตั้งอยู่ในบริเวณค่ายพระรามหก ที่ตำบลห้วยเหนือ อำเภอชะอำ จังหวัดเพชรบุรี ตรงหลักกิโลเมตรที่ 216 เลยหาดชะอำมา เล็กน้อย เป็นพระตำหนักที่ประทับริมทะเล ซึ่งพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว โปรดให้รื้อพระตำหนักหาดเจ้า สำราญมาปลูกขึ้นใหม่เมื่อปี พ.ศ.2466 ได้รับขนานนามว่า "พระราชนิเวศน์แห่งความรักและความหวัง" ลักษณะเป็น พระตำหนักไม้สองชั้น หันหน้าออกสู่ทะเล พระตำหนักฝ่ายในอยู่ปีกขวา ทางปีกซ้ายเป็นส่วนของฝ่ายหน้า ประกอบด้วย พระที่นั่งสามองค์ เชื่อมต่อถึงกันโดยตลอด พระที่นั่งสุนทรพิมาน เป็นที่ประทับของพระนางเจ้าอินทรศักดิ์ศจีพระวรชายา พระที่นั่งพิศาลสาครเป็นที่ประทับ ของพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว เป็นหมู่พระที่นั่งตรงกลางประกอบด้วยห้องต่างๆ สำหรับ สำราญพระอิริยาบถ ห้องพักข้าราชบริพารที่คอยรับ ใช้ใกล้ชิด ห้องทรงพระอักษร และพระที่นั่งสโมสรเสวกามาตย์เป็น อาคารโถงสองชั้นเปิดโล่งใช้เป็นที่ประชุมในโอกาสต่างๆ และเป็นโรงละคร ซึ่งเคยจัดแสดงละครครั้งสำคัญ 2 ครั้ง คือ เรื่องพระร่วง และวิวาห์พระสมุทร ในปี พ.ศ.2484 เจ้าพระยารามราฆพ ได้สร้างพระบรมรูปพระบาทสมเด็จพระมงกุฎ เกล้าเจ้าอยู่หัว ถวายเป็นพระราชานุ สรณ์ประดิษฐานไว้ ณ ท้องพระโรงพระราชนิเวศน์มฤคทายวัน และได้จัดงานบำเพ็ญพระราชกุศลถวาย เป็นพระราช สักการะ เนื่องในวันที่ระลึกคล้ายวันสวรรคตของพระองค์ในวันที่ 25 พฤศจิกายน เป็นประจำทุกปี พระราชนิเวศน์มฤคทายวัน เปิดให้เข้าชมทุกวัน ระหว่างเวลา 08.00 - 16.00 น. สำหรับผู้เข้าชมเป็นหมู่คณะ ต้องทำ หนังสือถึงผู้กำกับการกองบังคับการฝึกพิเศษ ค่ายพระรามหก อำเภอชะอำ จังหวัดเพชรบุรี โทร. (032) 471388 , 471130 ที่มา |

::: ภูโคลนคันทรี่คลับ ::
เป็นแหล่งค้นพบโคลนจากน้ำพุร้อน นับเป็นหนึ่งในสามแหล่งของโลกที่มีการค้นพบโคลนที่นำมาใช้ในการเสริมสร้างสุขภาพความงามให้กับผิวพรรณของเรา นอกเหนือจากโคลนใต้ทะเล dead sea และโคลนภูเขาไฟ เนื่องจากมีแร่ธาตุที่มีประโยชน์ เช่น แคลเซียม ที่ช่วยปรับความสมดุลย์ของผิว โบรไมด์มีฤทธิ์ฆ่าเชื้อโรค แมกนีเซียมช่วยเสริมสร้างและช่อมแซมเซลล์ผิวที่เสื่อมสภาพ เป็นต้น เป็นแหล่งที่สามารถท่องเที่ยวได้ตลอดทั้งปี ภูโคลน ให้บริการในรูปแบบของแนเชอรัลสปา และมีสระน้ำแร่ธรรมชาติ สอบถามรายละเอียดได้ที่ โทร.0 5361 2265, 0 6198 0722 หรือ http://www.pooklon.com
การเดินทาง ใช้ทางหลวงหมายเลข 1095 สายแม่ฮ่องสอน - ปาย ระยะทางประมาณ 6 กิโลเมตร เลี้ยวซ้ายไปตามถนนเข้าหมู่บ้านกุงไม้สัก - บ้านห้วยนาขานอีก 4 กิโลเมตรจะพบภูโคลนอยู่ทางขวามือ
: บ้านน้ำเพียงดิน ::

การเดินทาง จากเมืองแม่อ่องสอนเลี้ยงขวาตรงโรงแรมอิมพีเรียลธาราแม่ฮ่องสอน ตามเส้นทางไปโป่งแดงประามณ 14 กิโลเมตร ก่อนถึงสะพานข้ามแม่น้ำปายให้แยกซ้ายไปตามแม่น้ำ จะเห็นเรือหางยาวบริการไปบ้านน้ำเพียงดิน หรือจะขับรถไปสุดทางเพื่อลงเรือที่บ้านห้วยเดื่อก็ได้ ใช้เวลาในการเดินทาง ประมาณ1 ชั่วโมง ค่าโดยสารเหมาลำประมาณ 500 - 700 บาท นั่งได้ 8 คน ติดต่อท่าเรือบ้านห้วยเดื่อ โทร 0 5368 4160
นอกจากนี้ ยังมีหมู่บ้านกะเหรี่ยงคอยาวอีก 2 แห่ง ได้แก่ " บ้านในสอย " ตั้งอยู่ห่างจากตัวเมืองแม่ฮ่องสอน 33 กิโลเมตร ตามทางหลวงหมายเลข 1095 ไปทางอำเภอปางมะผ้า ผ่านบ้านปางหมู ข้ามสะพานแม่น้ำปาย บริเวณหลักกิโลเมตรที่ 199 แยกซ้ายมือไปตามถนน รพช. 1 กิโลเมตร เพื่อพบสามแยกให้เลี้ยวซ้ายไปทาง รพช. สายบ้านในสอยอีก 17 กิโลเมตร บ้านกะเหรี่ยงคอยาวจะอยู่เลยบ้านในสอยไปประมาณ 3 กิโลเมตร ทางช่วงนี้เป็นลูกรังควรใช้รถกระบะ
อีกหมู่บ้านหนึ่ง คือ"บ้านห้วยเสือเฒ่า"อยู่ใกล้กับตัวเมืองแม่ฮ่องสอน เดินทางจากตัวเมืองไปทางอำเภอขุนยวม ผ่านหน้าศาลากลาง ถึงแยกไฟแดงซ้ายมือจะมีป้อมตำรวจเล็กๆ ตรงมุมให้เลี้ยวซ้ายเข้าไปอีกประมาณ 12 กิโลเมตร ก็จะถึงบ้านห้วยเสือเฒ่า ถนนเป็นคอนกรีต แต่ในอนาคตจะนำกะเหรี่ยงคอยาวทั้ง3 หมู่บ้านนี้มาร่วมด้วยกัน
สอบถามข้อมูลได้ที่ศูนย์ประสานงานการท่องเที่ยว จังหวัดแม่ฮ่องสอน โทร 0 5361 2982 - 3
ที่มา http://www.hotelsthailand.com/north/maehongson/places.cfm
Phuket
What comes into the mind of travellers when we talk about sea, sun and sand? Phuket must definitely be one of the answers. Especially when we think about the island in which there is plenty of accommodation and all kinds of facilities. In addition, a number of various activities can also be found on this island.
In the early Christian Era, the cape of Phuket was locally referred to as Jung Ceylon, while locals called it Thalang, which evolved to Thanlng the name of the main town to the north of the island. As the perfect stopover sheltering traders from monsoons, Jung Ceylon welcomed merchants from India, Persia, Arabia, Burma, China and aslo Siam. During the 16th century, the island was also a popular trading port for tin. In 1785, Thaland town was surrounded by Burmese troops who invaded the coastal area. It was under the leadership of Chan, the widow of the governor, and her sister, Muk, who united the local resedents and successfully fought and drove the invaders out of Phuket. It took over 30 days for the defending troops of Phuket, under the command of Chan and Muk, to claim their victory. As a result of such heroic deeds, noble titles were granted to Chan and Muk as 'Thao Thep Krasattri and Thao Sri Soonthorn, repectively. There are still hightly respected by Phuket residents even today.
When the city was in a peaceful state, the development of mining was so unprecedented. Chinese businessmen and miners later migrated to Phuket and soon enjoy thriving weath. The island's long history has shaped the distintive Phuket of the present with its diverse ethnic groups, culture, architectural influence, and fine cuisine. Phuket has a lot more to offer its visitors than its natural heritage of sea, sand, sky beach, forest, and world renowned diving sites. Sino-Portuguese architecture casts its spell delighting travellers to the city, while Phuket style of hospitality has never failed to impress visitors from all walk of life.
Getting to Know:
1. Phuket is located approximately 862 kilometres south of Bangkok.
2. There are only two seasons in a year the green season ( May to October) and the hot season (November
to April)
3. Phuket is divided into 3 adminstrative districts: namely, amphoe Mueng, Amphoe Thaland and Ampho
เข้าสู่วันที่สองกับสถานที่ท่องเที่ยวในเชียงรายวันนี้ผมมีแผนเดินทางไปเที่ยวชมสถานที่ต่าง ๆ สามแห่งด้วยกันคือ แม่สาย พระตำหนักดอยตุง พระธาตุดอยตุง และชมสวนในมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง ซึ่งวันนี้ขอหยิบยกสถานที่ท่องเที่ยวที่ผมประทับใจในความงามและสดชื่นตามธรรมชาติมาเล่าให้ฟังกัน วันที่สองของการเดินทางเริ่มต้นด้วยการเดินทางข้ามชายแดนแม่สายไปสถานที่ท่องเที่ยวจับจ่ายใช้สอยสินค้าราคาถูกในฝั่งพม่า กว่าจะเดินท่องเที่ยวและซื้อของกันครบก็ประมาณบ่ายโมงแล้ว ผมจึงเดินทางมาที่พระตำหนักดอยตุงทางขึ้นเขาค่อนข้างจะคดเคี้ยวพอสมควรกว่าจะถึงก็ราว ๆ บ่ายสองโมงครึ่ง ถ้าเป็นสถานที่ในกรุงเทพเวลาบ่ายสองโมงนี่ก็ถือว่าเป็นช่วงเวลาที่แดดแรงมาก แต่บนพระตำหนักดอยตุงนี้อากาศแสนจะสดชื่นเย็นสบาย...
ที่มา http://siamtips.blogspot.com/
ที่มา http://siamtips.blogspot.com/
ผ่านไปผ่านมาอยู่หลายครั้ง ไม่ว่าจะเป็นแฟรงค์เฟิร์ตหรือมิวมิค ก็เพียงแค่เปลี่ยนเครื่องเพื่อเดินทางไปเยือนยลประเทศอื่นในทวีปยุโรปเท่านั้น จึงได้เพียงแค่สบตากับเยอรมันจากช่องหน้าต่างของเครื่องโบอิ้งแต่เพียงอย่างเดียว ในใจก็คิดไปว่า ประเทศนี้ทำไมดูเป็นระเบียบเรียบร้อยดีจังเลย เมื่อมองจากมุมสูง โดยเอาสายตาเล็ดลอดผ่านบานหน้าต่างที่เค้าให้ปิดขณะเครื่องจะลงจอด เลยแอบแลเห็นบ้านเรือนถูกจัดวางแปลนอย่างมีระบบ หรือนี่จะเป็นสิ่งที่พ่อหนวดแปะจมูกที่ชอบยกมือขวาทิ้งไว้ให้ เดี๋ยวมีโอกาสเถอะ จะขอเข้าไปกระแซะหาคำตอบกันหน่อย ว่าจะสวยเหมือนอย่างที่มองผ่านเลนส์รึเปล่า
แล้วโอกาสทองก็มาถึง เมื่อเครื่องแลนด์ดิ้งที่แฟรงค์เฟิร์ตอีกครั้ง คราวนี้ไม่ต้องโยกย้ายส่ายสะโพกไปที่ไหนอีก เพราะตั้งใจกลับมากระแซะเยอรมันแบบเต็มตัว ด้วยความใคร่รู้และชอบเที่ยว ขอพักสักหน่อย แล้วจะเริ่มสตาร์ทริปนี้ให้ถึงใจเลยเชียว ประเทศเยอรมนี หรือ สหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี เป็นประเทศที่ตั้งอยู่ใจกลางของทวีปยุโรป มีกรุงเบอร์ลินเป็นเมืองหลวง และถูกล้อมรอบด้วยประเทศเพื่อนบ้านอย่าง ทางทิศเหนือติดกับเดนมาร์ก ทิศตะวันตกติดกับเบลเยียม เนเธอร์แลนด์ ลักเซมเบิร์ก และฝรั่งเศส ทิศใต้ติดกับสวิสเซอร์แลนด์ และออสเตรีย ทิศตะวันออกติดกับเชคและโปแลนด์ นับว่าเป็นประเทศที่มีเพื่อนบ้านเยอะทีเดียว เยอรมันนับว่าเป็นประเทศที่มีภูมิทัศน์ที่ครบครัน ทั้งเทือกเขาสูงต่ำ ทะเลสาป ที่ราบโล่งกว้าง แม่น้ำ รวมถึงชายฝั่งทะเล และเกาะแก่งน้อยใหญ่ ส่วนลักษณะอากาศ จัดว่าเป็นประเทศที่ค่อนข้างมีอากาศที่หนาวเย็น จะอบอุ่นขึ้นบ้างก็ในฤดูใบไม้ผลิคือช่วงเดือน มีนาคมถึงพฤษภาคม และฤดูร้อนช่วงเดือนมิถุนายนถึงสิงหาคม
เยอรมันเป็นประเทศที่มีสังคมเปิด คือ ยอมรับผู้คนที่อพยพมาจากถิ่นอื่นเพื่อเข้ามาตั้งรกราก และผู้อพยพหนีสงคราม ทั้งยังเปิดเสรีสำหรับผู้ใช้แรงงาน จึงทำให้เป็นประเทศที่มีการรวมประชากรจากหลายเชื้อชาติ โดยเฉพาะเมืองใหญ่ๆ ซึ่งเยอรมันมีเมืองใหญ่ที่น่าสนใจอยู่มากมาย มาเริ่มตะลุยกันที่เมืองที่มีชื่อหอมฟุ้งอย่างโคโลญจ์กันดีกว่า Cologne (โคโลญจ์) ชาวเยอรมันออกเสียงว่า "เคิล์น" เป็นเมืองใหญ่ที่สุดเมืองหนึ่งของประเทศเยอรมัน ชื่อเมืองมีที่มาอย่างที่คิดไว้ไม่มีผิด คือสมัยก่อนเป็นที่ตั้งของโรงงานผลิตน้ำหอมที่เรียกว่า ออดิโคโลญจ์ ยี่ห้อ 4711 ซึ่งเป็นของฝากอันขึ้นชื่อของเมืองโคโลญจ์ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันนั่นเอง และสิ่งที่เป็นมรดกโลกสุดอลังการอย่าง เคิล์นโดมก็ตั้งอยู่ที่เมืองนี้ ฉะนั้น ต้องตามติดไปรู้ประวัติกันหน่อย
Cologne Cathedral หรือ Kolner Dom (มหาวิหารโคโลญจ์) เป็นมหาวิหารที่มีสถาปัตยกรรมแบบโกธิก ซึ่งเป็นศาสนสถานของคริสตศาสนาโรมันคาทอลิก สร้างเพื่ออุทิศให้นักบุญปีเตอร์และพระแม่มารี โดยก่อสร้างมาตั้งแต่ปีค.ศ. 1791 โดยใช้เวลาการก่อสร้างกว่าหกร้อยปีกว่าจะเสร็จสมบูรณ์ อีกทั้งยังได้รับความเสียหายจากสงครามโลกครั้งที่สองอีก เนื่องจากโบสถ์แห่งนี้ตั้งอยู่ใจกลางเมือง และใกล้จุดยุทธศาสตร์ จนต้องทำการบูรณะใหม่หลังสงครามยุติ ปัจจุบันได้ถูกบันทึกให้เป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโกเป็นที่เรียบร้อยแล้วตั้งแต่ปี 2536 มหาวิหารโคโลญจ์ มีขนาดสูงเป็นอันดับสองของยุโรป คือเป็นหอคอยแฝดสูง 157 เมตร กว้าง 86 เมตร และยาว 144 เมตร รองจากมหาวิหารอูล์ม ที่ตั้งอยู่ในเมืองอูล์ม ประเทศเยอรมันเช่นกัน เมืองโคโลญจ์ ยังมีเสน่ห์ที่สามารถฉุดฉันให้อยู่ต่อได้อีก เพราะถ้ามาเที่ยวช่วงเดือนพฤศจิกายน แน่นอนว่าจะต้องได้ร่วมฉลองเทศกาลใหญ่อย่าง เทศกาลคานิวาล แน่นอน เพราะเป็นสีสันที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วสารทิศให้มาร่วมงานรื่นเริงนี้ ซึ่งจัดขึ้นในวันที่ 11 เดือน 11 เวลา 11 นาฬิกา 11 นาที และ 11 วินาที ของทุกปีจนถึงเดือนกุมภาพันธ์ ช่วงเวลานี้ทั่วทั้งเมืองโคโลญจ์จะสนุกสนานรื่นเริงกับการแสดงดนตรี วงโยธวาทิต การเต้นรำ การแต่งกายแบบแฟนซี และขบวนแห่ การกินดื่ม สรวนเสเฮฮากัน เรียกว่ามันส์แบบยาวนานหลายเดือนเลย แต่จะให้สุดเหวี่ยงก็ต้องวันแรกกับวันสุดท้ายของงานนี่สิเด็ดสุด ร้อง เล่น เต้นรำ กันทั้งวันทั้งคืนให้หมดแรงกันไปข้างเลย
พักความหอมฟุ้งแห่งเมืองโคโลญจ์ ด้วยการเอาเท้าไปแช่น้ำอุ่นสักเดี๋ยว ก่อนอาบน้ำอาบท่า แล้วไปหาอะไรกินก่อนเข้านอน พรุ่งนี้จะขอออกเดินทางมุ่งหน้าไปยังทิศตะวันตกของเยอรมัน ส่วนจะไปกระแซะเมืองใดนั้น ต้องเขยิบไปต่อกันที่ตอนสอง
Written by Omyim
วันพุธที่ 2 พฤษภาคม พ.ศ. 2555
แหล่งท่องเที่ยวยอดนิยม
แหล่งท่องเที่ยวยอดฮิต
สวนผึ้ง เป็นอำเภอหนึ่งของจังหวัดราชบุรี ที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก เพราะมีความอุดมสมบูรณ์ทางธรรมชาติ ทั้งป่าไม้ ภูเขา และน้ำตก พื้นที่ส่วนใหญ่จะเป็นที่ราบสูง ภูมิประเทศของสวนผึ้งนั้นขนาบด้วยเทือกเขาตะนาวศรี ซึ่งเป็นพรมแดนทางตะวันตกกั้นระหว่างประเทศไทยกับพม่า การเดินทางสะดวก ใช้เวลาเดินทางเพียง 2 ชั่วโมงกว่า ๆ จากกรุงเทพฯ ก็ถึงแล้ว
สถานที่ท่องเที่ยวมีความหลากหลาย ทั้งจากธรรมชาติสร้างและฝีมือมนุษย์รังสรรค์ ที่สำคัญมาเที่ยวกันได้ตลอดทั้งปีโดยเฉพาะหน้าหนาวอากาศจะดีมาก ๆ และมีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจก็มีอยู่มากมายหลายแห่ง เช่น โป่งยุบ เป็นการยุบตัวของพื้นดินที่มีลักษณะเป็นหลุม มีความลึกประมาณ 3-5 เมตร เป็นปรากฏการณ์ทางธรรมชาติที่หาชมได้ยาก, บ้านเทียนหอม หนึ่งในของที่ระลึกที่ไม่ซื้อไม่ได้ถ้าไปถึงสวนผึ้งก็คือ เทียนหอมสารพัดลวดลายหลากหลายสีสัน แถมยังมีร้านเสื้อเพ้นท์สดลวดลายสวยงามน่ารัก ใส่แล้วไม่ซ้ำใครแน่นอนเพราะเค้าเพ้นท์มาแบบละตัวเท่านั้น
ธารน้ำร้อนบ่อคลึง ลักษณะเป็นลำธารเล็ก ๆ มีน้ำไหลซึมออกมาจากตาน้ำใต้ดินไม่ขาดสาย มีน้ำไหลตลอดปี อุณหภูมิของน้ำจะประมาณ 65 องศาเซลเซียส ไม่ร้อนมากพอที่จะต้มไข่สุกได้, น้ำตกเก้าชั้น หรือ น้ำตกเก้าโจน มีทั้งหมด 14 ชั้น แต่สามารถเที่ยวได้เพียง 9 ชั้นเท่านั้น ในฤดูฝนจะมีน้ำมาก หินบริเวณน้ำตกชั้นต่าง ๆ เป็นหินแกรนิต มีจุดกางเต้นท์ให้บริการนักท่องเที่ยวอยู่ด้านบน และสวนผึ้งออร์คิด ใครชอบกล้วยไม้ไม่ควรพลาด เพราะเป็นศูนย์รวม แวนด้า แอสโดเซนด้า ลูกผสมหลากสี สวยงาม มีให้เลือกกันอย่างมากมาย ชอบต้นไหนก็ซื้อกลับบ้านได้เลย ราคาเริ่มต้นตั้งแต่หลักร้อยยันหลักพัน
ที่มา http://travel.kapook.com/view35258.html
สวนผึ้ง เป็นอำเภอหนึ่งของจังหวัดราชบุรี ที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก เพราะมีความอุดมสมบูรณ์ทางธรรมชาติ ทั้งป่าไม้ ภูเขา และน้ำตก พื้นที่ส่วนใหญ่จะเป็นที่ราบสูง ภูมิประเทศของสวนผึ้งนั้นขนาบด้วยเทือกเขาตะนาวศรี ซึ่งเป็นพรมแดนทางตะวันตกกั้นระหว่างประเทศไทยกับพม่า การเดินทางสะดวก ใช้เวลาเดินทางเพียง 2 ชั่วโมงกว่า ๆ จากกรุงเทพฯ ก็ถึงแล้ว
สถานที่ท่องเที่ยวมีความหลากหลาย ทั้งจากธรรมชาติสร้างและฝีมือมนุษย์รังสรรค์ ที่สำคัญมาเที่ยวกันได้ตลอดทั้งปีโดยเฉพาะหน้าหนาวอากาศจะดีมาก ๆ และมีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจก็มีอยู่มากมายหลายแห่ง เช่น โป่งยุบ เป็นการยุบตัวของพื้นดินที่มีลักษณะเป็นหลุม มีความลึกประมาณ 3-5 เมตร เป็นปรากฏการณ์ทางธรรมชาติที่หาชมได้ยาก, บ้านเทียนหอม หนึ่งในของที่ระลึกที่ไม่ซื้อไม่ได้ถ้าไปถึงสวนผึ้งก็คือ เทียนหอมสารพัดลวดลายหลากหลายสีสัน แถมยังมีร้านเสื้อเพ้นท์สดลวดลายสวยงามน่ารัก ใส่แล้วไม่ซ้ำใครแน่นอนเพราะเค้าเพ้นท์มาแบบละตัวเท่านั้น
ธารน้ำร้อนบ่อคลึง ลักษณะเป็นลำธารเล็ก ๆ มีน้ำไหลซึมออกมาจากตาน้ำใต้ดินไม่ขาดสาย มีน้ำไหลตลอดปี อุณหภูมิของน้ำจะประมาณ 65 องศาเซลเซียส ไม่ร้อนมากพอที่จะต้มไข่สุกได้, น้ำตกเก้าชั้น หรือ น้ำตกเก้าโจน มีทั้งหมด 14 ชั้น แต่สามารถเที่ยวได้เพียง 9 ชั้นเท่านั้น ในฤดูฝนจะมีน้ำมาก หินบริเวณน้ำตกชั้นต่าง ๆ เป็นหินแกรนิต มีจุดกางเต้นท์ให้บริการนักท่องเที่ยวอยู่ด้านบน และสวนผึ้งออร์คิด ใครชอบกล้วยไม้ไม่ควรพลาด เพราะเป็นศูนย์รวม แวนด้า แอสโดเซนด้า ลูกผสมหลากสี สวยงาม มีให้เลือกกันอย่างมากมาย ชอบต้นไหนก็ซื้อกลับบ้านได้เลย ราคาเริ่มต้นตั้งแต่หลักร้อยยันหลักพัน
ที่มา http://travel.kapook.com/view35258.html
เกาะปิดะนอก-เกาะปิดะใน, จังหวัดกระบี่
เกาะปิดะนอก-เกาะปิดะใน
เชียงใหม่ ติดอันดับ 8 สถานที่ฉลองครบรอบแต่งงาน
สำนักข่าวต่างประเทศจัดอันดับ สุดยอด 10 สถานที่ฉลองครบรอบแต่งงาน โดยมีจังหวัดเชียงใหม่ ของประเทศไทย ติดอยู่ในอันดับ 8
เป็นที่น่าภาคภูมิใจอีกครั้ง เมื่อประเทศไทยติดอันดับ 1 ใน 10 สถานที่ที่เหมาะกับการฉลองครบรอบแต่งงาน โดยจังหวัดเชียงใหม่ ถูกจัดให้อยู่ในอันดับที่ 8 ซึ่งนอกจากจะเหมาะแก่การฉลองครบรอบแต่งงานแล้ว เชียงใหม่ยังถูกจัดให้เป็นสถานที่ที่เหมาะกับการมาเป็นอาสาสมัคร ทั้งในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า สอนพระสงฆ์พูดภาษาอังกฤษ หรือแม้กระทั่งปรับปรุงอาคารบ้านเรือนต่าง ๆ รวมทั้งช่วยเหลือช้างอีกด้วย และที่สำคัญคือ คนไทยยังมีเสน่ห์เป็นที่น่าประทับใจ มีอาหารพื้นบ้าน และสถาปัตยกรรมที่งดงาม เป็นเอกลักษณ์
และเชียงใหม่ ยังมีสถานที่ที่น่าสนใจอีกมากมาย เช่น วัดพระธาตุดอยสุเทพราชวรวิหาร ที่มีความงดงาม และเป็นโบราณสถานแห่งชาติ นอกจากนี้วัฒนธรรมความอ่อนช้อย และความมีน้ำใจของผู้คนในเมืองเชียงใหม่ ก็เป็นสิ่งที่หนึ่งชาวต่างชาติประทับใจ และยังมีไร่องุ่น น้ำพุร้อน รวมถึงการขี่ช้างเดินชมธรรมชาติให้คู่รักได้ลองสัมผัสด้วยเช่นกัน และนอกจากจังหวัดเชียงใหม่แล้ว ยังมีสถานที่ต่าง ๆ อีก 9 แห่ง ทั่วโลก ที่ติดอันดับด้วยเช่นกัน ดังนี้
1. สาธารณะรัฐ โดมินิกัน
ถูกจัดให้ติดอันดับที่ 1 เพราะเป็นสถานที่ฉลองครบรอบแต่งงานสุดประหยัด ที่มีแพคเกจท่องเที่ยว และ ที่พักราคาไม่แพง และผู้คนไม่พลุกพล่าน
2. โซโมนา รัฐแคลิฟอร์เนีย
เป็นสถานที่สุดโรแมนติก ที่เขาบอกว่าเหมาะแก่การผลิตทายาทสุด ๆ มีทั้งโรงแรมสุดหรู สปาสุดผ่อนคลาย และยังมีร้านอาหารที่การันตีความอร่อยด้วยดาวมิชลินอีกด้วย
3. โปซิตาโน อิตาลี
มีทั้งไวน์เลิศรส อาหารชั้นเยี่ยม หมู่บ้านชาวประมงเก่าแก่ และบรรยากาศเหมาะสำหรับคู่รักเป็นที่สุด
4. ควีนส์ทาวน์ นิวซีแลนด์
สำหรับคู่รักที่หลงใหลในการผจญภัย ที่นี่มีพร้อมทุกอย่าง ทั้งทะเลสาบ จุดเล่นสกี สโนว์บอร์ด ขี่ม้า บันจี้จัมพ์ เดินป่า หรือ ล่องแพ เรียกว่าเป็นสวรรค์ของนักผจญภัยโดยแท้
5. ลาสเวกัส เนวาดา
มี โบสถ์ วีว่า ลาสเวกัส รอให้ไปแลกคำสัญญา ปฏิญาณรัก กันใหม่อีกรอบ พร้อม ๆ กับรำลึกถึงนักร้องร็อค แอนด์ โรล คนดัง เอลวิส เพรสลีย์
6. มอมบาซา เคนยา
เขตมอมบาซาอยู่ริมขอบมหาสมุทรอินเดีย มีวัฒนธรรมแอฟริกันที่เป็นเอกลักษณ์ รวมทั้งมีทัวร์ซาฟารีให้เที่ยวชมป่าและสัตว์ต่าง ๆ แบบธรรมชาติ
7. เอดินเบิร์ก สกอตแลนด์
มีรีสอร์ทสำหรับตีกอล์ฟ ทัวร์โรงกลั่นวิสกี้ ฉลองครบรอบกันด้วยวิสกี้รสชาติเยี่ยม ทั้งยังมีเมืองมรดกโลก และหอศิลป์แห่งชาติสกอตแลนด์อีกด้วย
8. เชียงใหม่ ประเทศไทย
เป็นสถานที่สำหรับคู่รักที่ต้องการรมาเป็นอาสาสมัคร และพัฒนาสิ่งต่าง ๆ เพื่อให้คู่รักได้มาเรียนรู้วัฒนธรรม รสชาดอาหาร และสถาปัตยกรรมที่เป็นเอกลักษณ์ ร่วมกัน นับว่าเป็นการฉลองครบรอบแต่งงานที่เก๋ไปอีกแบบเลยล่ะ
9. โบราโบรา ฝรั่งเศส
ชายหาดที่ทุกคนใฝ่ฝัน บังกะโลสวย บนน้ำทะเลใส ๆ กับวิว 360 องศา และการบริการระดับพรีเมี่ยม ในสถานที่สุดหรู
10. พาราไดซ์ ไอส์แลนด์ บาฮามาส
เกาะสวรรค์ที่บาฮามาส คือ ดินแดนแห่งความสุข ที่ประหยัดกว่าโบราโบรา ดำน้ำกับปลาโลมา ตีกอล์ฟ อาบแดด และผจญภัยริมชายหาด
ที่มา......http://travel.kapook.com/view40293.html
เป็นที่น่าภาคภูมิใจอีกครั้ง เมื่อประเทศไทยติดอันดับ 1 ใน 10 สถานที่ที่เหมาะกับการฉลองครบรอบแต่งงาน โดยจังหวัดเชียงใหม่ ถูกจัดให้อยู่ในอันดับที่ 8 ซึ่งนอกจากจะเหมาะแก่การฉลองครบรอบแต่งงานแล้ว เชียงใหม่ยังถูกจัดให้เป็นสถานที่ที่เหมาะกับการมาเป็นอาสาสมัคร ทั้งในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า สอนพระสงฆ์พูดภาษาอังกฤษ หรือแม้กระทั่งปรับปรุงอาคารบ้านเรือนต่าง ๆ รวมทั้งช่วยเหลือช้างอีกด้วย และที่สำคัญคือ คนไทยยังมีเสน่ห์เป็นที่น่าประทับใจ มีอาหารพื้นบ้าน และสถาปัตยกรรมที่งดงาม เป็นเอกลักษณ์
และเชียงใหม่ ยังมีสถานที่ที่น่าสนใจอีกมากมาย เช่น วัดพระธาตุดอยสุเทพราชวรวิหาร ที่มีความงดงาม และเป็นโบราณสถานแห่งชาติ นอกจากนี้วัฒนธรรมความอ่อนช้อย และความมีน้ำใจของผู้คนในเมืองเชียงใหม่ ก็เป็นสิ่งที่หนึ่งชาวต่างชาติประทับใจ และยังมีไร่องุ่น น้ำพุร้อน รวมถึงการขี่ช้างเดินชมธรรมชาติให้คู่รักได้ลองสัมผัสด้วยเช่นกัน และนอกจากจังหวัดเชียงใหม่แล้ว ยังมีสถานที่ต่าง ๆ อีก 9 แห่ง ทั่วโลก ที่ติดอันดับด้วยเช่นกัน ดังนี้
1. สาธารณะรัฐ โดมินิกัน
ถูกจัดให้ติดอันดับที่ 1 เพราะเป็นสถานที่ฉลองครบรอบแต่งงานสุดประหยัด ที่มีแพคเกจท่องเที่ยว และ ที่พักราคาไม่แพง และผู้คนไม่พลุกพล่าน
2. โซโมนา รัฐแคลิฟอร์เนีย
เป็นสถานที่สุดโรแมนติก ที่เขาบอกว่าเหมาะแก่การผลิตทายาทสุด ๆ มีทั้งโรงแรมสุดหรู สปาสุดผ่อนคลาย และยังมีร้านอาหารที่การันตีความอร่อยด้วยดาวมิชลินอีกด้วย
3. โปซิตาโน อิตาลี
มีทั้งไวน์เลิศรส อาหารชั้นเยี่ยม หมู่บ้านชาวประมงเก่าแก่ และบรรยากาศเหมาะสำหรับคู่รักเป็นที่สุด
4. ควีนส์ทาวน์ นิวซีแลนด์
สำหรับคู่รักที่หลงใหลในการผจญภัย ที่นี่มีพร้อมทุกอย่าง ทั้งทะเลสาบ จุดเล่นสกี สโนว์บอร์ด ขี่ม้า บันจี้จัมพ์ เดินป่า หรือ ล่องแพ เรียกว่าเป็นสวรรค์ของนักผจญภัยโดยแท้
5. ลาสเวกัส เนวาดา
มี โบสถ์ วีว่า ลาสเวกัส รอให้ไปแลกคำสัญญา ปฏิญาณรัก กันใหม่อีกรอบ พร้อม ๆ กับรำลึกถึงนักร้องร็อค แอนด์ โรล คนดัง เอลวิส เพรสลีย์
6. มอมบาซา เคนยา
เขตมอมบาซาอยู่ริมขอบมหาสมุทรอินเดีย มีวัฒนธรรมแอฟริกันที่เป็นเอกลักษณ์ รวมทั้งมีทัวร์ซาฟารีให้เที่ยวชมป่าและสัตว์ต่าง ๆ แบบธรรมชาติ
7. เอดินเบิร์ก สกอตแลนด์
มีรีสอร์ทสำหรับตีกอล์ฟ ทัวร์โรงกลั่นวิสกี้ ฉลองครบรอบกันด้วยวิสกี้รสชาติเยี่ยม ทั้งยังมีเมืองมรดกโลก และหอศิลป์แห่งชาติสกอตแลนด์อีกด้วย
8. เชียงใหม่ ประเทศไทย
เป็นสถานที่สำหรับคู่รักที่ต้องการรมาเป็นอาสาสมัคร และพัฒนาสิ่งต่าง ๆ เพื่อให้คู่รักได้มาเรียนรู้วัฒนธรรม รสชาดอาหาร และสถาปัตยกรรมที่เป็นเอกลักษณ์ ร่วมกัน นับว่าเป็นการฉลองครบรอบแต่งงานที่เก๋ไปอีกแบบเลยล่ะ
9. โบราโบรา ฝรั่งเศส
ชายหาดที่ทุกคนใฝ่ฝัน บังกะโลสวย บนน้ำทะเลใส ๆ กับวิว 360 องศา และการบริการระดับพรีเมี่ยม ในสถานที่สุดหรู
10. พาราไดซ์ ไอส์แลนด์ บาฮามาส
เกาะสวรรค์ที่บาฮามาส คือ ดินแดนแห่งความสุข ที่ประหยัดกว่าโบราโบรา ดำน้ำกับปลาโลมา ตีกอล์ฟ อาบแดด และผจญภัยริมชายหาด
ที่มา......http://travel.kapook.com/view40293.html
สมัครสมาชิก:
ความคิดเห็น (Atom)